บทความที่ได้รับความนิยม

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

วัดไชยวัฒนาราม




ถ้าหากจะพูดถึงการเที่ยววัด จังหวัดแรกที่คนจะนึกถึงคงไม่พ้นจังหวัดอยุธยาแน่นอน เพราะอยุธยาเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในอดีต จึงมีการสร้างวัดกันมาก จะสังเกตุเห็นว่า เกือบจะทุกหนแห่งของอยุธยา ยังมีซากกำแพงซากเจดีย์ปรากฏให้เห็นอยู่ ข้าพเจ้าเองไปอยุธยาบ่อยครั้งมาก แต่พอเที่ยวแล้วก็ลืม จึงมีความคิดว่าเราควรต้องบันทึกเอาไว้ มิใช่เพียงเพื่อจะให้จดจำได้เท่านั้น  แต่อยากให้ผู้คนที่ลืมไปแล้วเหมือนกันเช่นข้าพเจ้า หรือคนที่ยังไม่เคยได้ไป ได้มีข้อมูลไว้เป็นเบื้องต้น  เมื่อเดือน มิย. 55 ข้าพเจ้าไปวัดที่มีความสำคัญมากวัดหนึ่งในประวัติศาสตร์ของอโยธยา นั่นคือวัดไชยวัฒนาราม





วัดไชยวัฒนาราม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตะวันตกของเกาะเมือง อยู่นอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา พระราชพงศาวดารระบุว่า สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2173 ซึ่งเป็นปีแรกที่พระองค์ทรงปราบดาภิเษกขึ้นครองราชสมบัติ วัดนี้อยู่ในที่อันเป็นนิวาสถานเดิมของพระองค์  โดยสร้างอุทิศถวายแด่องค์พระชนนีและเฉลิมพระเกียรติ์พระองค์เอง วัดนี้อาจจะใช้เวลาก่อสร้างต่อเนื่องมาถึง 20 ปี   เพราะข้อความในจารึกลานทองที่พบ ฝังอยู่ที่เบื้องหลังพระพุทธรูปทรงเครื่อง ในเมรุจารึกไว้ว่า "ศุภมัสดุพุทธศักราช 2192  มหาศักราช 572  วันพุธ เดือน 4 ขึ้น 15 ค่ำ  (ปี) จอโทสก แรกสถาปนา"





เจดีย์ทรงปรางค์ขนาดใหญ่ เป็นประธานของวัด  ก่อบนฐานร่วมกับปรางค์บริวารขนาดย่อม  ก่อไว้ประจำ 4 มุม ระเบียงคดที่ล้อมรอบมี "เมรุ" คือทรงปราสาท 8 องค์ ตั้งเป็นจังหวะอยู่ตามทิศ  อุโบสถอยู่นอกระเบียงคดทางทิศตะวันออก มีกำแพงล้อมออกมาถึง 3 ชั้น  แผนผังที่สมบูรณ์เกิดจากการวางตำแหน่งอาคารในจังหวะที่สมดุลย์  จึงได้จังหวะที่งดงามไม่ว่าจะมองในทางราบหรือทางตั้ง   พระมหากษัตริย์นับแต่ สมเด็จพระเจ้าปราสาททองเป็นต้นมา  เสด็จมาบำเพ็ญพระราชกุศล และใช้เป็นที่ทำการพระศพ พระราชวงศ์และขุนนางระดับสูงอยู่เสมอ  ก่อนเสียพระนครศรีอยุธยา วัดไชยวัฒนารามคงเป็นที่ตั้งรับข้าศึก ดังปรากฏหลักฐานการก่อเสริมกำแพงวัดให้มั่นคง รวมทั้งพบชิ้นส่วนของกระบอกปืนและลูกกระสุนปืนใหญ่อีกจำนวนหนึ่ง










และเมื่อเสียกรุงในปี พ.ศ.2310  วัดไชยวัฒนารามได้ถูกปล่อยทิ้งร้าง มีคนใจบาปเข้าไปลักลอบตัดเศียรพระไปหลายองค์ อิฐกำแพงวัดก็ถูกรื้อไปขาย จนกระทั่งกรมศิลปากรได้เข้ามาปรับปรุง ขณะนี้พบพระที่มีเศียรอยู่เพียง 2 องค์











เมื่อเดือน ตุลาคม 2554 จังหวัดอยุธยาประสพปัญหาอุทกภัยอย่างหนัก วัดไชยวัฒนาซึ่งอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้เจดีย์บางองค์ชำรุดมากขึ้น กรมศิลปากรเตรียมเข้าปรับปรุงซ่อมแซม เจ้าหน้าที่จึงนำเชือกกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปชมภายในเหมือนเช่นแต่ก่อน  หากใครจะเข้าชมในตอนนี้ก็คงดูได้เพียงภายนอก



ความสวยงามของวัดไชยวัฒนาราม ทำให้สามารถมองเห็นความสวยงามทางจิตใจของคนอยุธยาและคนไทยในอดีตได้เป็นอย่างดี  จิตใจที่มุ่งทำนุบำรุงพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองยามบ้านเมืองสงบศึก

และตรงข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยากับวัดไชยวัฒนารามแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของพระตำหนักสิริยาลัย ของสมเด็จพระบรมราชินีนารถ





จึงกล่าวได้ว่า นักท่องเที่ยวทั้งหลาย หากพลาดชมวัดไชยวัฒนารามแห่งนี้......ก็จะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่งนัก.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น