บทความที่ได้รับความนิยม

วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วัดโพธิสมภรณ์...วัดดีในอุดร


พระบรมธาตุธรรมเจดีย์ วัดโพธิสมภรณ์



วัดโพธิสมภรณ์ เป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง เป็นวัดที่สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ ช่วงปลายรัชกาลที่ ๕  โดยมหาอำมาตย์ตรีพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร (โพธิ เนติโพธิ์) สมุหเทศาภิบาลมณฑลอุดร  ได้ชักชวนราษฎรในหมู่บ้านหมากแข้งให้ช่วยกันสร้างวัดเพื่อให้เป็นแหล่งพึ่งพิงของชาวพุทธเพิ่มเติมเพราะในช่วงนั้นมีวัดอยู่ในเขตมณฑลอุดรเพียงวัดเดียวคือ “วัดมัชฌิมาวาส”  จึงได้เลือกบริเวณนี้ซึ่งขณะนั้นเป็นที่ราบ ป่าละเมาะ ไม่ไกลจากแหล่งชุมชนนัก


หลังจากสร้างเสร็จ  ชาวบ้านพากันเรียกวัดนี้ว่า"วัดใหม่" และเรียกวัดมัชฌิมาวาสว่า "วัดเก่า" ต่อมาพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิธสถิตสีมารามได้ทรงประทานนามใหม่ว่า "วัดโพธิสมภรณ์" เพื่อให้เป็นอนุสรณ์แก่พระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร(โพธิ เนติโพธิ์) ผู้สร้างวัดนี้   ปัจจุบันหลวงปู่จันทร์ศรีซึ่งมีสิริอายุเกินกว่า ๑๐๐  ปีแล้ว เป็นเจ้าอาวาส







หลวงปู่จันทร์ศรี


ภายในวัดสงบเงียบสมเป็นที่ปฏิบัติธรรม จุดเด่นของวัดนี้อยู่ที่พระบรมธาตุธรรมเจดีย์ ซึ่งเป็นเจดีย์รูปแปดเหลี่ยม สร้างด้วยหินแกรนิต เป็นที่รวบรวมอัฐิธาตุและคำสอนของพระเกจิอาจารย์สายหลวงปู่มั่นทั้งหมดเป็นพิพิธภัณฑ์บูรพาจารย์ฝ่ายกัมมัฏฐาน ให้ประชาชนได้กราบสักการะ

























ผู้ที่มาเที่ยวอุดร  ไม่ควรพลาดที่จะต้องมากราบไหว้สักการะเกจิอาจารย์ทั้งหลายที่วัดนี้...............






ขอขอบคุณข้อมูลจากวัดโพธิสมภรณ์

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ภาพประทับใจ






ภาพนี้คือชายคนหนึ่งที่กำลังขะมักเขม้นกับการขนย้ายของ  หากเขาเป็นประชาชนธรรมดาคงไม่ให้ความรู้สึกอันใดเลย    แต่เมื่อเขาคือ นายเดวิด คาเมรอน  นายกรัฐมนตรีอังกฤษ  ที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่ง กำลังช่วยเจ้าหน้าที่ขนย้ายของส่วนตัวออกจากบ้านพักประจำตำแหน่ง   ภาพนี้กลับสะท้อนความรู้สึกที่เกินบรรยาย   สะท้อนให้เห็นถึงสัจจธรรม.....ความไม่ยึดติด...และความมีสปิริตอันแรงกล้าของเขา 


ภาพจากไทยพีบีเอส


David William Donald Cameron  คือชื่อเต็มของเขา เขาเกิดเมื่อวันที่ 9 ตค.2509  เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ คนที่ 53  ตั้งแต่ 11 พค.2553  จนถึง  13 กค. 2559  รวม  2 สมัยเป็นเวลา 6 ปีเศษ จากพรรคอนุรักษ์นิยม ข่าวจากไทยพีบีเอสรายงานว่าเขาแถลงให้ประชาชนอังกฤษทราบว่าเขาจะทำตามนโยบายที่แถลงไว้ในช่วงหาเสียงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการจัดลงประชามติว่าอังกฤษจะเป็นสมาชิกอียูต่อไปหรือไม่



และเขาก็ทำตามที่แจ้งไว้ทุกประการ โดยตัวเขาเองสนับสนุนในด้านอยู่ต่อ  แต่ผลการลงประชามติกลับกลายเป็นว่า ประชาชนอังกฤษส่วนใหญ่เห็นต่าง  ประชาชนเลือกที่จะออกจากอียู  ส่งผลให้เขาต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งทันที  การลาออกแม้จะเป็นไปโดยมารยาท แต่การที่เขาไม่ยุดยื้อในตำแหน่ง และเปิดโอกาสให้นางเทเรซา เมย์ เข้ามาบริหารประเทศอย่างรวดเร็ว นับเป็นสปิริตอันแรงกล้าที่เขาคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติไม่ให้เสียหายในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่าน จะมีใครสักกี่คนในโลกใบนี้ที่สามารถถอดหัวโขนวางได้ทันทีและปรับสถานภาพได้ทันทีเช่นเขา



การยึดหลักสัจจธรรมในการดำรงชีวิตและประกอบกิจการงาน  เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรยึดถือให้จงหนักไม่ว่าจะเป็นประเทศชาติ  หรือหน่วยงานราชการ   และแม้แต่องค์กรเอกชน  ล้วนเป็นส่วนที่จะประกอบกันให้เกิดความเจริญก้าวหน้า  หากแต่ละคนยึดถือเอาประโยชน์ของตนเป็นหลัก ก็ยังแต่จะรั้งความเจริญรุ่งเรืองไว้ทั้งสิ้น   นายเดวิด  คาเมรอน  จึงถือเป็นบุคคลตัวอย่างที่ควรแก่การสรรเสริญอย่างยิ่ง    ขอน้อมคารวะอย่างจริงใจ..............






วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เวียงกุมกาม..นครโบราณใต้พิภพ






คงจะมีหลายคนที่ไปเที่ยวเชียงใหม่หลายสิบครั้งแต่ไม่เคยไปเที่ยวที่เวียงกุมกาม เพราะเวียงกุมกามมิใช่สถานที่ๆสวยงามที่มีการโฆษณาชวนให้หลงไหล หากแต่เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจยิ่ง  ข้าพเจ้าเองก็เพิ่งเคยไปเวียงกุมกามเมื่อไม่นานมานี้เอง 





เวียงกุมกามเป็นเมืองเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่รัชสมัยพญามังราย สร้างขึ้นในบริเวณชุมชนโบราณสมัยหริภุญไชย ชื่อว่าชุมชนวัดกานโถม ตามประวัติก่อนหน้าการสร้างเวียงกุมกาม ชุมชนแห่งนี้เคยอยู่ภายใต้การปกครองของแคว้นหริภุญไชย  มีการคาดเดาจากร่องรอยหลักฐานทางโบราณคดีว่าน่าจะมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗  ซึ่งถ้านับถึงปัจจุบันก็มีอายุเกิน ๗๐๐  ปีแล้ว



หอพญามังราย



เชื่อกันว่าพญามังรายปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังรายผู้ก่อตั้งอาณาจักรล้านนา ทรงสร้างเวียงกุมกามในปี พศ.๑๘๒๙  หลังจากอพยพมาจากหริภุญไชย(ลำพูน) เมื่อครั้งที่พระองค์ยกทัพจากเมืองฝางมายึดครองเมืองหริภุญไชย พระองค์ประทับที่เมืองหริภุญไชยเพียง ๒ ปี ก็ทรงแต่งตั้งให้อ้ายฟ้าเป็นขุนฟ้าครองเมืองหริภุญไชยต่อ ไม่เลือกหริภุญไชยเป็นเมืองหลวงด้วยเห็นว่าเมืองมีขนาดเล็ก ขยายต่อไม่ได้เพราะเต็มไปด้วยวัดเนื่องจากหริภุญไชยเป็นศูนย์กลางทางศาสนา



พระองค์ย้ายมาสร้างเมืองเวียงกุมกามเป็นที่ประทับแห่งใหม่ เวียงกุมกามจึงถือกำเนิดในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างสมัยหริภุญไชยและสมัยล้านนา   โดยแนวคิดการสร้างเมืองรับอิทธิพลจากวัฒนธรรมของหริภุญไชย นั่นคือเลือกสร้างบนบริเวณที่ราบที่น้ำท่วมถึงและติดแม่น้ำปิงเพื่อสดวกต่อการคมนาคมและค้าขายตลอดจนถึงการทำการเกษตร อีกทั้งตำแหน่งที่ตั้งของเวียงกุมกามยังเหมาะสมต่อการเป็นศูนย์กลางของการควบคุมหัวเมืองต่างๆ



ในกาลต่อมา ปรากฏว่าเวียงกุมกามมักประสพปัญหาน้ำท่วมอยู่เสมอ พญามังรายจึงโปรดให้ตั้งเมืองใหม่ บริเวณเชิงดอยสุเทพกับแม่น้ำปิงในลักษณะพื้นที่ลาดเทแทนลักษณะที่ราบลุ่ม สร้างใน พศ.๑๘๓๙ มีชื่อว่า "นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่"  เวียงกุมกามจึงถูกลดฐานะมาเป็นเพียงเมืองหน้าด่าน ทำหน้าที่ป้องกันข้าศึกที่จะเข้ามาตีเชียงใหม่  หลังจากนั้นเวียงกุมกามก็ลดความสำคัญลงเรื่อยๆ



ในช่วง พศ.๒๑๐๑ - ๒๓๑๗  เชียงใหม่อยู่ภายใต้การปกครองของพม่า  บ้านเมืองเกิดจราจลบ่อยครั้ง พม่าเข้ามามีอิทธิพลและปกครองเวียงกุมกามด้วย ช่วงหนึ่งได้เกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรง เป็นภัยธรรมชาติที่ทำลายเวียงกุมกามให้สลายตัวลง  เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เวียงกุมกามได้รับความเสียหายอย่างหนัก ผู้คนละทิ้งที่อยู่และศาสนสถานบางส่วนไป ทั้งเวียงถูกฝังจมอยู่ในตะกอนดินมานับร้อยๆปี ไม่มีการฟื้นฟูบูรณะเพราะช่วงนั้นบ้านเมืองมีความแตกแยกกันมาก ชื่อของเวียงกุมกามค่อยๆเลือนหายไปจากประวัติศาสตร์เป็นเพียงเมืองในตำนานว่าเป็น"เมืองใต้ดิน"
















จวบจนในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เริ่มมีผู้คนย้ายเข้ามาอาศัยอยู่บริเวณนี้ จนกลับมามีสภาพเป็นชุมชนอีกครั้ง  เริ่มมีการบูรณะซ่อมแซมเจดีย์วัดกานโถมเป็นรูปช้างค้ำ และเรียกหมู่บ้านแห่งนี้ว่า "บ้านช้างค้ำ"  และเรียกชื่อวัดช้างค้ำ แทนชื่อวัดกานโถม



กรมศิลปากรได้ทำการขุดแต่งบูรณะโบราณสถานต่างๆ ในเวียงกุมกาม ตั้งแต่ พศ.๒๕๒๗ - ๒๕๓๒  รวม ๑๐ วัดด้วยกัน  สภาพของเวียงกุมกามจึงกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่งจวบจนปัจจุบัน



วัดช้างค้ำ












พระศรีมหาโพธิ์ที่นำพันธ์มาจากลังกาพญามังรายทรงให้ปลูกที่วัดกานโถม

วัดเจดีย์เหลี่ยม

วัดธาตุขาว
วัดปู่เปี้ย


นอกจากนี้ยังมีวัดอีกหลายๆวัด ที่อยู่ในสภาพที่เหลือแต่แนวฐานราก  วัดแต่ละแห่งอยู่ไม่ห่างกันนัก แสดงว่าในอดีตชุมชนแห่งนี้ต้องเป็นชุมชนที่หนาแน่นพอควร  เฉพาะในส่วนที่เป็นเขตชั้นในที่มีวัดจำนวนมากนี้ มีเนื้อที่เกินกว่า ๘๐๐  ไร่    การท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่ จึงได้จัดรถม้าคอยให้บริการพาชมโบราณสถานทุกแห่งในเมืองนี้  สดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวในการเข้าชม   นับเป็นที่แห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง















ขอขอบคุณข้อมูลจาก วัดช้างค้ำ

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

มหัศจรรย์ แพะเมืองผี






แพะเมืองผี....ชื่อนี้น่ากลัวมาก แต่แท้จริงก็คือปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากผิวเปลือกโลกยกตัวสูงขึ้นและถูกน้ำกัดเซาะทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ จนกรวด ดิน หิน ทราย เกาะตัวกันเป็นเสาดินรูปร่างต่างๆ กัน




















ความลึกลับของสถานที่แห่งนี้ที่เล่าขานกันในอดีตโดยผู้เฒ่าผู้แก่ของท้องถิ่นเล่าสืบกันมาว่า มียายคนหนึ่งเข้าป่าไปหาผัก หาหน่อไม้เพื่อมาทำเป็นอาหาร ได้หลงเข้าไปที่แห่งหนึ่ง ไปพบหลุมเงินหลุมทอง จึงได้เอาเงินทองใส่หาบจนเต็ม แล้วยกใส่บ่าเพื่อจะหาบกลับบ้าน แต่กลับหลงทางหาทางกลับไม่เจอเพราะเทพยดาอารักษ์เจ้าของที่ไม่ยอมให้เอาไป ยายคนนั้นได้วางหาบไว้ตรงนั้นและตัดไม้คาดทำเป็นราวทางเดินเป็นสัญญลักษณ์ไว้เพื่อจะได้กลับมาเอาอีกครั้งหนึ่งได้ถูกต้อง แต่ครั้นกลับมาเพื่อจะนำหาบเงินหาบทองออกไป กลับเจอปรากฎการณ์แปลกเดินเท่าไรก็ไม่ถึงที่หมายสักที ยิ่งเดินเหมือนยิ่งถอยหลัง ยายคนนั้นจึงวางหาบลงแล้วกลับไปเรียกเพื่อนบ้านให้มาดู  ชาวบ้านจำนวนมากพากันมาดู แต่เงินทองนั้นกลับหายไป  ครั้นเดินสะกดรอยไปตามรอยเท้าที่เห็นจนถึงข้างเสาดิน ก็ไม่พบรอยเท้าอีกเลย ในที่สุดยายคนนั้นก็ไม่สามารถนำสิ่งใดออกจากป่าได้  ชาวบ้านจึงพากันเรียกขานสถานที่แห่งนั้นว่า "แพะเมืองผี"  ซึ่งคำว่า แพะ ภาษาพื้นเมืองแปลว่าป่าละเมาะ  ส่วนเมืองผี หมายถึงความเงียบเหงาวังเวงเหมือนเมืองผีนั่นเอง



ปัจจุบัน แพะเมืองผี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มิได้มีความวังเวงเหมือนในอดีต แต่มีความสวยงามแปลกตาที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ให้  เป็นที่หนึ่งที่น่าเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง