พอถึงหน้าหนาวทีไร ใจก็ให้คิดแต่อยากจะสัมผัสความหนาวที่ภาคเหนือหรืออิสานทุกครั้งไป เมื่อปีที่แล้วได้ไปลุยภาคเหนือมา ในปีนี้จึงเลือกไปภาคอิสาน โดยมีจังหวัดเลยเป็นเป้าหมาย เพราะจังหวัดเลยมีหลายสิ่งหลายอย่างที่สัมผัสแล้วมีความสุข โดยเฉพาะเมืองเก่า ๆ อย่างเชียงคานซึ่งยังมีความโบราณอยู่มาก ทำให้เกิดความรู้สึกเสมือนเดินทางท่องเที่ยวย้อนกาลเวลา
เราไปถึงเชียงคานประมาณ ๔ โมงเย็น นับว่าเป็นโชคดีที่สามารถขับรถเข้าไปจอดยังที่พักซึ่งอยู่บนถนนชายโขงได้ ถนนชายโขงคือถนนที่เลียบขนานกับแม่น้ำโขง จะเป็นถนนเส้นดั้งเดิมที่เล็กและแคบ จึงมีการเดินรถทางเดียวและจะปิดถนนประมาณ ๕ โมงเศษ ๆ เพื่อทำเป็นถนนคนเดิน คนจะคึกคักทุกวัน และบริเวณนี้คือจุดขายของเชียงคาน
เราไปถึงเชียงคานประมาณ ๔ โมงเย็น นับว่าเป็นโชคดีที่สามารถขับรถเข้าไปจอดยังที่พักซึ่งอยู่บนถนนชายโขงได้ ถนนชายโขงคือถนนที่เลียบขนานกับแม่น้ำโขง จะเป็นถนนเส้นดั้งเดิมที่เล็กและแคบ จึงมีการเดินรถทางเดียวและจะปิดถนนประมาณ ๕ โมงเศษ ๆ เพื่อทำเป็นถนนคนเดิน คนจะคึกคักทุกวัน และบริเวณนี้คือจุดขายของเชียงคาน
เรื่องราวของเมืองเชียงคาน มีความเป็นมาที่น่าสนใจ ประวัติความเป็นมาของเชียงคาน มีปรากฏอยู่ที่วัดศรีคุณเมือง ซึ่งเป็นวัดประจำเมืองเชียงคาน
เมืองเชียงคานเดิมตั้งอยู่ที่เมืองชะนะคาม ประเทศลาว สร้างโดยขุนคาน โอรสของขุนคัวแห่งอาณาจักรล้านช้าง เมื่อประมาณ พ.ศ. ๑๔๐๐ ต่อมาประมาณ พ.ศ. ๒๒๕๐ อาณาจักรล้านช้างแยกออกเป็น ๒ อาณาจักร คืออาณาจักรหลวงพระบางซึ่งพระเจ้ากีสราชเป็นกษัตริย์ปกครอง และอาณาจักรเวียงจันทร์ซึ่งมีพระเจ้าไชยองค์เว้เป็นกษัตริย์ปกครอง โดยกำหนดอาณาเขตให้ดินแดนเหนือแม่น้ำเหืองขึ้นไปเป็นอาณาจักรหลวงพระบาง และใต้แม่น้ำเหืองลงมาเป็นอาณาจักรเวียงจันทร์
ต่อมาทางหลวงพระบางได้สร้างเมืองปากเหืองซึ่งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำโขงเป็นเมืองหน้าด่าน และทางเวียงจันทร์ได้สร้างเมืองเชียงคานเป็นเมืองหน้าด่านเช่นกัน
เมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๐ พระเจ้ากรุงธนบุรี โปรดให้เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกกับพระสุรสีห์ ยกทัพไปตีกรุงเวียงจันทร์ เมื่อตีสำเร็จจึงอัญเชิญพระแก้วมรกตมายังกรุงธนบุรี แล้วได้รวมอาณาจักรล้านช้างเข้าด้วยกัน และให้เป็นประเทศราชของไทย พร้อมทั้งกวาดต้อนผู้คนไปอยู่ที่เมืองปากเหืองมากขึ้น แล้วโปรดเกล้าให้เมืองปากเหืองขึ้นกับเมืองพิชัย
ต่อมาในรัชสมัยของรัชกาลที่ ๓ เจ้าอนุวงศ์แห่งเมืองเวียงจันทร์คิดกอบกู้เอกราช จึงยกกำลังจากเวียงจันทร์มายึดเมืองนครราชสีมา แต่กระทำการไม่สำเร็จ ถูกจับขังจนสิ้นชีวิต กองทัพไทยที่ยกมาปราบเจ้าอนุวงศ์ที่นครราชสีมาได้ยกทัพไปกวาดต้อนผู้คนจากฝั่งซ้ายของลำน้ำโขงไปอยู่เมืองปากเหืองมากขึ้น และโปรดเกล้าให้พระอนุพินาถ(กิ่ง ต้นสกุลเครือทองศรี) เป็นเจ้าเมืองปากเหืองคนแรก แล้วพระราชทานชื่อเมืองใหม่ว่าเมืองเชียงคาน
ครั้นรัชสมัยของรัชกาลที่ ๕ มีพวกจีนฮ่อยกทัพมาตีเมืองเวียงจันทร์ เมืองหลวงพระบาง และได้ปล้นสะดมเมืองเชียงคานที่อยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ชาวเชียงคานจึงพากันอพยพมาอยู่ที่เมืองปากเหืองเป็นจำนวนมาก อยู่ๆกันไปก็เห็นว่าชัยภูมิของเมืองนี้ไม่ค่อยดีนัก ผู้คนจึงพากันอพยพไปอยู่ที่บ้านท่านาจัน ซึ่งใกล้กับที่ตั้งของเมืองเชียงคานในปัจจุบัน และตั้งชื่อชุมชนใหม่นี้ว่า เมืองใหม่เชียงคาน
และในรัชสมัยของรัชกาลที่ ๕ นี้เองไทยได้เสียดินแดนฝั่งขวาของแม่น้ำโขงให้กับฝรั่งเศส ทำให้เมืองปากเหือง ตกเป็นของฝรั่งเศส ชาวปากเหืองจึงอพยพมาอยู่กันที่เมืองใหม่เชียงคาน หรืออำเภอเชียงคานในปัจจุบัน แล้วเปลี่ยนชื่อเมืองใหม่นี้ว่าเมืองเชียงคาน ตั้งที่ทำการอยู่วัดมหาธาตุเรียกว่าศาลาเมืองเชียงคาน ภายหลังได้ย้ายที่ทำการเมืองไปอยู่วัดโพนชัย จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๕๒ ได้ยกฐานะเป็นอำเภอเชียงคาน ขึ้นกับจังหวัดเลย เมืองเชียงคานมีอายุครบ ๑๐๐ ปีเพื่อ พ.ศ. ๒๕๕๒ และจนถึงปัจจุบันก็ครบ ๑๐๕ ปีแล้ว
และในรัชสมัยของรัชกาลที่ ๕ นี้เองไทยได้เสียดินแดนฝั่งขวาของแม่น้ำโขงให้กับฝรั่งเศส ทำให้เมืองปากเหือง ตกเป็นของฝรั่งเศส ชาวปากเหืองจึงอพยพมาอยู่กันที่เมืองใหม่เชียงคาน หรืออำเภอเชียงคานในปัจจุบัน แล้วเปลี่ยนชื่อเมืองใหม่นี้ว่าเมืองเชียงคาน ตั้งที่ทำการอยู่วัดมหาธาตุเรียกว่าศาลาเมืองเชียงคาน ภายหลังได้ย้ายที่ทำการเมืองไปอยู่วัดโพนชัย จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๕๒ ได้ยกฐานะเป็นอำเภอเชียงคาน ขึ้นกับจังหวัดเลย เมืองเชียงคานมีอายุครบ ๑๐๐ ปีเพื่อ พ.ศ. ๒๕๕๒ และจนถึงปัจจุบันก็ครบ ๑๐๕ ปีแล้ว
มนต์เสน่ห์ของเมืองเชียงคาน คือความเป็นเมืองโบราณนั่นเอง ที่ยังหลงเหลืออยู่ทั้งสภาพความเป็นอยู่และวัฒนธรรมโบราณ โดยเฉพาะวัฒนธรรมการตักบาตรข้าวเหนียว ซึ่งถือปฏิบัติเช่นเดียวกับที่หลวงพระบาง ใครได้ไปเที่ยวก็ต้องไปตักบาตรข้าวเหนียวกันแต่เช้า ชาวบ้านจะเอาเสื่อมาปูหน้าบ้านเพื่อนั่งรอพระมารับบาตร
ไกลออกไปจากเชียงคานประมาณ ๘-๙ กม.ก็จะพบกับบรรยากาศของธรรมชาติอีกแบบหนึ่ง บริเวณนั้นเรียกว่าภูทอก เป็นเขาเตี้ยๆ ซึ่งเป็นเทือกยาวต่อมาจากภูพาน ในวันที่หนาวเย็น ท้องฟ้าโปร่ง และลมสงบ จะสามารถพบเห็นทะเลหมอกที่สวยงามมากที่สุดตั้งแต่เคยพบเห็นมาจากหลายๆแห่ง เพราะบริเวณนี้เป็นหุบเขาที่กว้าง และมีแนวเขาสลับซับซ้อน จึงเป็นบรรยากาศที่แปลกและสวยงามมาก
นอกเหนืออกจากที่เชียงคานแล้ว ที่อำเภอภูเรือก็เป็นอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเลยที่มีความสวยงาม อากาศที่หนาวเย็นเป็นส่วนใหญ๋ทำให้พื้นที่อำเภอภูเรือเป็นแหล่งปลูกไม้ดอกที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งของไทย โดยเฉพาะในช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาส ดอกคริสต์มาสจะบานไสวไปทั่วเมือง อำเภอภูเรือจึงจัดลานคริสต์มาสได้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ชื่นชมทุกปี
และที่อำเภอหนองหิน ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเลยที่มีมุมเล็กๆอีกมุมหนึ่งที่น่ารักจากการประดับประดาสวนหินซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ บรรจงตกแต่งให้เกิดความสวยงาม
การไปทริปอิสานในครั้งนี้นอกจากจะได้สัมผัสไอหนาวอย่างเต็มอิ่มแล้ว ยังได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามของหลายๆสถานที่ในจังหวัดเลยอย่างคุ้มค่าอีกด้วย และเหนือสิ่งอื่นใดมีโอกาสได้แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นมงคลแก่ชีวิต ที่พระธาตุศรีสองรัก พระธาตุแห่งสัจจะและไมตรี
พระธาตุศรีสองรัก ตั้งอยู่ที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เป็นปูชนียสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของไทยกับลาว ที่สร้างขึ้นด้วยความร่วมมือของพระมหากษัตริย์แห่งสองราชอาณาจักร คือสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์แห่งกรุงศรีอยุธยา กับพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งกรุงศรีสตนาคนหุต แห่งเวียงจันทร์ ระหว่างปี พ.ศ. ๒๑๐๓-๒๑๐๖ ถือเป็นพระธาตุแห่งสัจจะและไมตรี โดยยึดถือความเชื่อทางพระพุทธศาสนา เป็นแนวทางในการสร้างสัมพันธภาพและไมตรีระหว่างสองพระนครที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ยึดมั่นในพระพุทธศาสนา โดยเชื่อว่าพระพุทธศาสนาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายสามารถควบคุมหรือทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยากับเวียงจันทร์เป็นไปตามสัญญาที่ให้ไว้ต่อกัน ในยุคนั้นพม่าเรืองอำนาจมากมาย ทั้งกรุงศรีอยุธยาและเวียงจันทร์ต่างก็ถูกพม่ารกุรานบ่อยครั้ง กษัตริย์ทั้งสองแผ่นดินจึงจับมือร่วมกัน นำพาประชาชนทั้งสองชาติผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวสู้กับข้าศึก พระธาตุแห่งนี้จึงเป็นสักขีพยานของความรักใคร่ของชนชาติไทยลาวมาแต่โบราณกาล ปัจจุบันมีอายุไม่น้อยกว่า ๔๕๐ ปีแล้ว
ทริปอิสานในหนาวนี้ จึงนับว่าคุ้มค่าและน่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง ...........................................
ขอขอบคุณข้อมูลจากวัดศรีคุณเมือง อ.เชียงคาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น