คนที่ทำงานธนาคาร จะมีความสุขได้อย่างน้อยก็ปีละ 2 ครั้ง นั่นก็คือวันที่โบนัสออกทั้งกลางปีและสิ้นปี ในวันนั้นจะเป็นวันที่เห็นแต่รอยยิ้มของพนักงาน หากใครไม่โดนหักชำระหนี้ ก็จะยิ้มกว้างหน่อย ใครที่โดนหักชำระหนี้ ก็จะยิ้มมุมปากแบบที่คนเห็นแล้วก็ต้องเข้าใจว่า ปีนี้ยังไม่ใช่โอกาสของเขา
ฉันมีเพื่อนอยู่ 2 คนที่เมื่อได้โบนัสมา ก็จะต้องคำนวณทุกครั้งไปว่าได้ในสัดส่วนกี่เท่าของเงินเดือน สมเหตุสมผลกับผลกำไรจากการประกอบการของธนาคารหรือไม่ และจะต้องวิพากวิจารณ์กันมันหยดทุกครั้ง หากไม่เป็นไปตามเหตุผลที่เหมาะสม
ในปีนั้น เพื่อน 2 คนนี้ได้กี่เท่าก็ยังไม่อาจเปิดเผยได้ เพราะการคำนวณยังไม่เสร็จสิ้น ก็เกิดอุบัติเหตุก่อนกับเพื่อนคนหนึ่ง !
ซิบกางเกง แตกออกเป็น 2 ซีก ระหว่างการคำนวณ ทำให้ต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว และพากันไปหาช่างซ่อมซิป โดยทั้ง 2 ชวนกันไปที่ประตูน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งสารพัดอย่างที่มี เมื่อไปถึงก็เลือกช่างซ่อมที่แก่หน่อย ด้วยความเห็นใจสงสารและถือโอกาสทำบุญกับคนแก่ไปด้วยเลย ..................
แต่เรื่องที่ไม่คาดฝัน มักจะเกิดขึ้นได้เสมอ ...............
ระหว่างที่ถอดกางเกงออกเพื่อให้ช่างซ่อม โดยนุ่งผ้าขาวม้าแทนระหว่างรอการซ่อม นัยว่าไม่เกิน 10 นาทีก็จะแล้วเสร็จ แต่เป็น 10 นาที ที่มีอุบัติเหตุขึ้นซ้ำสอง เมื่อเจ้าหน้าที่เทศกิจ เป่านกหวีดไล่ช่างซ่อมไม่ให้วางแผงเกะกะทางเท้า ทำให้ช่างซ่อมต้องยกหาบวิ่งหนีเจ้าหน้าที่เทศกิจ เพื่อจะไม่ให้โดนจับเสียค่าปรับ จึงต้องวิ่งหนีกันไปพร้อมกันทั้งผู้รับจ้างและผู้ว่าจ้าง
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทั้งสองครั้งสองครา แม้จะเป็นเพียงเหตุเล็ก ๆ แต่ก็ทำให้คิดได้ว่า....ในชีวิตของคนเรา สิ่งที่ไม่คาดฝัน....มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในทุกเวลานาที ! สมควรรำลึกถึงหลักธรรมะ ในเรื่อง....ความไม่ประมาท ให้เป็นนิจ !
สุดท้ายแล้ว เพื่อนฉันคนนั้น ก็ยกเลิกการว่าจ้าง รับกางเกงกลับคืนมาใส่ตามเดิม โดยแวะซื้อเข็มกลัดตัวเล็กๆ 1 โหลติดกลัดไว้รอบซิบแทน มั่นคงแข็งแรงดีกว่าเป็นไหน ๆ !
เป็นการฉลองโบนัสที่วิเศษสุด เท่าที่เคยได้ยินมา...ปีนั้น ไม่ว่าจะได้โบนัสกี่เท่า ก็นับว่าคุ้มทีเดียว....
(^O^) ใครหนอ?????
ตอบลบคนที่กำลังไหว้พี่ศร อยู่นั่นแหละ
ลบ