พระราชวังเว้ |
ที่พระราชวังเว้ จะมีคูน้ำล้อมรอบ สามารถมองเห็นผู้ที่จะเข้ามาได้ในระยะไกล หน้าพระราชวังจะมีป้ายประจำตำแหน่งของจอหงวน เวลาเข้าเฝ้าถวายรายงานราชการต่อกษัตริย์
ตำแหน่งที่ยืนของจอหงวน |
ส่วนด้านซ้ายจะมีระฆังขนาดใหญ่แขวนอยู่ เวลาต้องการป่าวร้องข่าวร้ายต่อประชาชน ก็จะใช้การตีระฆัง ก็จะเป็นที่รู้กัน
นอกจากนี้ภายในพระราชวัง ยังมีตำหนักพระสนม และตำหนักอื่น ๆ อีกมากมายจนไม่สามารถดูได้ทั่วถึง คณะเราเข้าชมพระราชวังกันพอประมาณ เพราะมีรายการที่น่าสนใจอื่นรออยู่ นั่นคือการช๊อปปิ่งที่ตลาดดองบาตลาดที่คึกคักที่สุดในเมืองเว้
ตลาดดองบา อยูไม่ไกลจากพระราชวังนัก ที่นี่เป็นตลาดค้าขายที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเว้ สินค้าพื้นเมืองและอื่น ๆ ทุกชนิดมีขายที่นี่ คนไทยนิยมไปช๊อปปื้ง สภาพโดยรวมของตลาดดองบา ดูไปแล้วไม่ต่างจากสำเพ็งเลยแม้แต่น้อย ที่สำเพ็งเขาจะขายเป็นโหล แต่ที่ดองบาขายทุกรูปแบบ แม่ค้าที่นี่จะเรียกคนไทยว่าแม่ พอเดินเข้าไปปั๊บ ก็ได้ยินเสียงแทบจะทุกร้านเหมือน ๆ กัน คือ " แม่..ของถูด ถูด" นั่นคือเสียงของบรรดาแม่ค้าทั้งหลายที่จะชักชวนให้เราซื้อของถูก ถูก นั่นเอง แต่แม่เจ้าประคุณบอกผ่านเสียเหลือขนาด ไกด์แนะนำให้เราต่อมาก ๆ ขนาด 50-70 % ทีเดียว และก็ได้ผลจริง ๆ สินค้าส่วนใหญ่จะมาจากจีน คุณภาพไม่ดีนัก การซื้อสินค้าที่นี่ สามารถใช้เงินบาทไทยได้สบาย ๆ แม่ค้าจะชอบ เราซื้อได้แค่เข็มขัด หมวก และกระเป๋า นิดหน่อยเท่านั้น ก็ต้องรีบออกมา เพราะคนแน่นจนแทบจะไม่ที่เดิน
โปรแกรมสุดท้ายของทัวร์ครั้งนี้คือวัดเทียนมู่ วัดนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเฮือง คนไทยมักจะเรียกว่าแม่น้ำสายนี้ว่าแม่น้ำหอม
เจดีย์ 8 เหลี่ยม 7 ชั้นวัดเทียนมู่ |
หน้าวัดเทียนมู่คือแม่น้ำเฮือง |
วัดนี้เป็นศุนย์กลางของพระพุทธศาสนานิกายเซ็น เจดีย์ทรงเก๋ง 7 ชั้นสื่อถึงชาติภพต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า วัดนี้มีประวัติศาสตร์ที่คนเวียตนามต้องจดจำ ก็คือช่วงที่โงดินห์เดียมปกครองเวียตนามใต้ จะบังคับให้ประชาชนนับถือศาสนาคริสต์เพื่อเอาใจอเมริกา รวมถึงขัดขวางการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ทางศาสนาพุทธ เจ้าอาวาสวัดเทียนมู่ขณะนั้นคือ ทิกกวางดุค ได้ต่อต้านคัดค้านเท่าใดก็ไม่เป็นผล จึงตัดสินใจประท้วงโดยเผาตัวเอง ท่านขับรถออสสินสีฟ้าไปที่กลางเมืองไซ่ง่อนพร้อมกับบรรดาพระสงฆ์จำนวนมาก และจุดไฟเผาตนเอง ในขณะที่พระสงฆ์เหล่านั้นนั่งทำสมาธิอย่างแน่วแน่ โดยไม่สนใจกับร่างที่กำลังถูกเผา จนในที่สุดท่านเจ้าอาวาสก็เสียชีวิตที่ตรงนั้น
เผาตัวเองกลางเมืองไซ่ง่อน |
เจ้าอาวาสทิกกวางหยุก |
ข่าวการเผาตนเองของเจ้าอาวาส เพื่อประท้วงการขัดขวางการทำพิธีทางศาสนาพุทธ และทำร้ายพุทธศาสนิกชนอย่างเหี้ยมโหด เป็นข่าวไปทั่วโลก จนรัฐบาลอเมริกันถูกชาวโลกประณาม และในที่สุดนำมาสู่การลุกฮือของนายทหารระดับสูงของเวียตนามเองที่นับถือพุทธซึ่งทนไม่ไหวได้รวบรวมกำลังเพื่อขัดขวาง จนนำไปสู่การสังหารโงดินห์เดียมและครอบครัว
รถออสตินของท่านทิกกวางดุค |
ปัจจุบันรถออสตินสีฟ้า ยังถูกเก็บรักษาไว้ที่วัดเทียนมู่ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้คนเวียตนามได้รำลึกถึงความกล้าหาญและความเสียสละของท่าน ทิกกวางดุค ในการอุทิศตนเพื่อรักษาพระพุทธศาสนาไว้
ชีวิตคนเวียตนามเหมือนคนมีกรรม เวียนว่ายอยู่ในกระแสแห่งสงครามที่มหาอำนาจเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์กันไม่สิ้นสุดจึงเป็นผู้ถูกกระทำในทุก ๆ ด้าน ตลอดเวลาที่นั่งรถชมเมืองเวียตนาม จะพบว่ามีสุสานอยู่เกลื่อนไปหมด แต่ละแห่งจะทาสีกันฉูดฉาดเหมือนจะแข่งกัน เพราะเหตุที่คนเวียตนามประสพแต่เคราะห์กรรม จึงมีความเชื่อว่า"ชีวิตในปัจจุบันเป็นชีวิตชั่วคราว เมื่อตายไปแล้ว จะเป็นชีวิตนิรันดร์" แต่ละตระกูลจึงตกแต่งสุสานให้สวยงามเพื่อให้เกิดความสุขในชีวิตนิรันดร์นั้น
ฉันเคยมองคนเวียตนามว่าเป็นคนขี้โกง น่ากลัว น่ารังเกียจ แต่เมื่อได้มีเวลาทำความเข้าใจกับประวัติศาสตร์ของเขาแล้ว กลับเห็นว่า ควรแก่การเห็นใจพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง หากเราประสพชะตากรรมเยี่ยงเขา ก็คงไม่พ้นที่จะมีพฤติกรรมเช่นเขาเพราะความที่ต้องเอาตัวรอด เขาจึงเป็นเช่นนั้น ฉันอำลาเวียตนามด้วยความเห็นใจเขาเป็นอย่างยิ่ง........
ซินจาว (สวัสดี) เวียตนาม........................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น