ถ้าหากจะพูดถึงการเที่ยววัด จังหวัดแรกที่คนจะนึกถึงคงไม่พ้นจังหวัดอยุธยาแน่นอน เพราะอยุธยาเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในอดีต จึงมีการสร้างวัดกันมาก จะสังเกตุเห็นว่า เกือบจะทุกหนแห่งของอยุธยา ยังมีซากกำแพงซากเจดีย์ปรากฏให้เห็นอยู่ ข้าพเจ้าเองไปอยุธยาบ่อยครั้งมาก แต่พอเที่ยวแล้วก็ลืม จึงมีความคิดว่าเราควรต้องบันทึกเอาไว้ มิใช่เพียงเพื่อจะให้จดจำได้เท่านั้น แต่อยากให้ผู้คนที่ลืมไปแล้วเหมือนกันเช่นข้าพเจ้า หรือคนที่ยังไม่เคยได้ไป ได้มีข้อมูลไว้เป็นเบื้องต้น เมื่อเดือน มิย. 55 ข้าพเจ้าไปวัดที่มีความสำคัญมากวัดหนึ่งในประวัติศาสตร์ของอโยธยา นั่นคือวัดไชยวัฒนาราม
วัดไชยวัฒนาราม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตะวันตกของเกาะเมือง อยู่นอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา พระราชพงศาวดารระบุว่า สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2173 ซึ่งเป็นปีแรกที่พระองค์ทรงปราบดาภิเษกขึ้นครองราชสมบัติ วัดนี้อยู่ในที่อันเป็นนิวาสถานเดิมของพระองค์ โดยสร้างอุทิศถวายแด่องค์พระชนนีและเฉลิมพระเกียรติ์พระองค์เอง วัดนี้อาจจะใช้เวลาก่อสร้างต่อเนื่องมาถึง 20 ปี เพราะข้อความในจารึกลานทองที่พบ ฝังอยู่ที่เบื้องหลังพระพุทธรูปทรงเครื่อง ในเมรุจารึกไว้ว่า "ศุภมัสดุพุทธศักราช 2192 มหาศักราช 572 วันพุธ เดือน 4 ขึ้น 15 ค่ำ (ปี) จอโทสก แรกสถาปนา"
เจดีย์ทรงปรางค์ขนาดใหญ่ เป็นประธานของวัด ก่อบนฐานร่วมกับปรางค์บริวารขนาดย่อม ก่อไว้ประจำ 4 มุม ระเบียงคดที่ล้อมรอบมี "เมรุ" คือทรงปราสาท 8 องค์ ตั้งเป็นจังหวะอยู่ตามทิศ อุโบสถอยู่นอกระเบียงคดทางทิศตะวันออก มีกำแพงล้อมออกมาถึง 3 ชั้น แผนผังที่สมบูรณ์เกิดจากการวางตำแหน่งอาคารในจังหวะที่สมดุลย์ จึงได้จังหวะที่งดงามไม่ว่าจะมองในทางราบหรือทางตั้ง พระมหากษัตริย์นับแต่ สมเด็จพระเจ้าปราสาททองเป็นต้นมา เสด็จมาบำเพ็ญพระราชกุศล และใช้เป็นที่ทำการพระศพ พระราชวงศ์และขุนนางระดับสูงอยู่เสมอ ก่อนเสียพระนครศรีอยุธยา วัดไชยวัฒนารามคงเป็นที่ตั้งรับข้าศึก ดังปรากฏหลักฐานการก่อเสริมกำแพงวัดให้มั่นคง รวมทั้งพบชิ้นส่วนของกระบอกปืนและลูกกระสุนปืนใหญ่อีกจำนวนหนึ่ง
และเมื่อเสียกรุงในปี พ.ศ.2310 วัดไชยวัฒนารามได้ถูกปล่อยทิ้งร้าง มีคนใจบาปเข้าไปลักลอบตัดเศียรพระไปหลายองค์ อิฐกำแพงวัดก็ถูกรื้อไปขาย จนกระทั่งกรมศิลปากรได้เข้ามาปรับปรุง ขณะนี้พบพระที่มีเศียรอยู่เพียง 2 องค์
เมื่อเดือน ตุลาคม 2554 จังหวัดอยุธยาประสพปัญหาอุทกภัยอย่างหนัก วัดไชยวัฒนาซึ่งอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้เจดีย์บางองค์ชำรุดมากขึ้น กรมศิลปากรเตรียมเข้าปรับปรุงซ่อมแซม เจ้าหน้าที่จึงนำเชือกกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปชมภายในเหมือนเช่นแต่ก่อน หากใครจะเข้าชมในตอนนี้ก็คงดูได้เพียงภายนอก
ความสวยงามของวัดไชยวัฒนาราม ทำให้สามารถมองเห็นความสวยงามทางจิตใจของคนอยุธยาและคนไทยในอดีตได้เป็นอย่างดี จิตใจที่มุ่งทำนุบำรุงพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองยามบ้านเมืองสงบศึก
และตรงข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยากับวัดไชยวัฒนารามแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของพระตำหนักสิริยาลัย ของสมเด็จพระบรมราชินีนารถ
จึงกล่าวได้ว่า นักท่องเที่ยวทั้งหลาย หากพลาดชมวัดไชยวัฒนารามแห่งนี้......ก็จะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่งนัก.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น