ลงจากรถไฟก็ถ่ายรูปกันเลย |
ข้าพเจ้าไปค่ายครั้งแรกที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อตอนมหาวิทยาลัยปิดเทอมปลายปีที่ 1 ในปีนั้นจำได้ว่านิสิตหญิงปี 1 ที่ไปค่ายอุดร มีอยู่เพียง 4 คน คือตัวข้าพเจ้า , นวล (นวลวรรณ แสนวิเศษ) , เปี๊ยก (สุกัญญา วีระอมรกุล) และอ๊อด (ดร.สิริลักษณ์ สิริสรรพ) วัตถุประสงค์ของการไปค่าย มิได้มีอย่างใดอื่น นอกเหนือจากต้องการใช้เวลาว่างที่มีในช่วงปิดเทอมไปทำประโยชน์ให้กับสังคม อุดมการณ์ที่เปี่ยมล้น จนไม่ได้นึกถึงความลำบากที่อยู่ข้างหน้า แม้พี่สาวข้าพเจ้าจะทักท้วงห้ามปราม เพราะคงเคยรู้รสความลำบากมาก่อน แต่ความตั้งใจที่แน่วแน่ แม้จะห้ามปรามสักเพียงใด ก็ทานไว้ไม่อยู่
เช้ามืดวันนั้น ข้าพเจ้าจึงออกจากบ้านอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับกระเป๋าเดินทางเพียงใบเดียว ย่องออกจากบ้าน ขึ้นรถเมล์หน้าปากซอยไปลงสถานีรถไฟหัวลำโพงตามที่รุ่นพี่นัดหมาย ชีวิตค่ายได้เริ่มที่จุดนั้น
ค่ายอาสาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปีนั้น ไปหลายจังหวัดด้วยกัน แต่ละจังหวัดก็จะมีรุ่นพี่ปี 3 เป็นผู้อำนวยการค่าย คอยบริหารจัดการทุกเรื่องเพื่อให้งานราบรื่น เป้าหมายของค่ายเกษตรคือการไปสร้างโรงเรียนในหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญ จึงเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับคนที่เป็นเพียงนิสิตนักศึกษาอย่างพวกเราเพราะแต่ละคนก็ยังไม่เคยมีประสพการณ์กันมาก่อน เพียงแต่ศึกษาเรียนรู้ก่อนที่จะออกปฏิบัติงานจริง จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมิใช่น้อยเลยทีเดียว
อุปกรณ์การก่อสร้างแบบบ้าน ๆ กองอยู่เต็มชานชลา อาทิเช่น บุ้งกี๋ จอบ เสียม เลื่อย กบ กระป๋องน้ำ เรียกว่าจัดเต็มสำหรับการก่อสร้าง ทุกคนกุลีกุจอขนขึ้นรถไฟ ช่วยกันเต็มที่อย่างคึกคัก สนุกสนาน ต้นทางอยู่หัวลำโพง ปลายทางคือสถานีอุดร พอไปถึงอุดร ก็มีรถจีเอ็มซีของทหารมารับไปส่งที่อำเภอนากลางซึ่งเป็นจุดที่ตั้งค่าย จุดทดสอบแรกเห็นจะเป็นเรื่องการเดินทางนี่แหละ เพราะทุกคนต้องยืนไปบนกระบะหลังของรถทหารอย่างทุลักทุเล แค่เดินทางก็เหนื่อยเสียแล้ว กว่าจะถึงค่ายก็ใช้เวลานานโขอยู่ จุดที่ตั้งค่าย จะอยู่ท้ายหมู่บ้าน พอไปถึงก็พบว่ามีเต้นท์ที่พักกางอยู่แล้ว โดยหน่วยล่วงหน้ามาเป็นผู้ดำเนินการตระเตรียมให้
พี่อุดม ยอดขันธ์ รับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการค่ายอุดร เป็นผู้นำที่ดีคนหนึ่งในสายตาของข้าพเจ้า ที่สามารถบริหารค่ายได้อย่างราบรื่น ในค่ายของเราเปรียบเสมือนบริษัท ที่มีงานหลายแผนกด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นแผนกโครงงาน , ครัว , สวัสดิการ , สันทนาการ และ อื่น ๆ ล้วนมีส่วนสำคัญที่ทำให้งานค่ายคืบหน้าและสำเร็จทั้งสิ้น ทุกคนมีหน้าที่อย่างไร ก็ทำไปตามหน้าที่นั้นให้เต็มกำลัง จนไม่ช้านาน ก็พอจะเห็นเค้าของความสำเร็จ เริ่มมองเห็นโครงอาคารเรียนชัดขึ้น
ขึ้นเสาโครงโรงเรียน |
ช่วยกันขนหินเพื่อไปผสมปูนเทพื้น |
ช่วยกันขนทราย |
นวลวรรณ กำลังไสไม้ผนังห้องเรียน |
การทำงานค่ายฝึกให้คนทำงานเป็นทีม และทำให้เห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่จะสำเร็จได้เพียงลำพัง ต้องช่วยเหลือกันเท่านั้น และที่สำคัญ เรามีกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ จากบุคคลท่านหนึ่ง ที่ชาวค่ายอาสาทุกคนเรียกท่านว่า "คุณพ่อ" ท่านคือ ศ.ระพี สาคริก บิดาของชาวค่าย ที่คอยให้กำลังใจแก่พวกเราเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในที่กันดารหรือลำบากสักเพียงใด ก็ยังดั้นด้นไป
คุณพ่อร่วมสัมมนาย่อยในค่าย |
ในแต่ละวันหลังจากเสร็จงาน อาบน้ำชำระร่างกายขจัดคราบเหงื่อแล้ว ก็มาล้อมวงรับประทานอาหารเย็นร่วมกันที่โรงครัวซึ่งเราสมมุติว่ามันคือภัตตาคาร เพราะมักจะมีของแปลก ๆ ให้สมาชิกค่ายได้ลิ้มลองอยู่บ่อย ๆ เช่น ถั่วเขียวต้มเกลือ เป็นต้น นัยว่าคนที่อยู่เวรครัวเห็นเกลือเป็นน้ำตาล
ร่วมวงทานอาหารเย็น |
แต่งกายโก้หรูฉลอง dinner |
ค่ายอุดร |
พลังแห่งความภาคภูมิใจในประโยชน์ที่ได้ทำต่อสังคม ทำให้มีการออกค่ายกันอีกในปีต่อ ๆ ไป และในช่วงปิดเทอมปี 2 ข้าพเจ้ามีโอกาสไปค่ายอีกครั้งที่จังหวัดอุบลราชธานี การไปค่ายในครั้งที่ 2 นี้ไม่มีสิ่งใดบอกเหตุเลยว่า พวกเราจะพบกับความสูญเสียที่ไม่อาจลืมได้
ค่ายอุบล |
สมาชิกค่ายอุบล |
จนกระทั่งถึงวันสุดท้ายที่พวกเราเตรียมปิดค่าย และจะทำพิธีอำลากันในช่วงค่ำคืน ปรากฏว่าในช่วงบ่ายทุกคนก็ตื่นเต้นกันมากมาย เมื่อทราบว่าคุณพ่อและคณะ มาเยี่ยม และจะร่วมพิธีกับพวกเรา ตลอดบ่ายวันนั้น จึงเป็นวันที่สนุกสนานและอบอุ่นเป็นที่สุด ชาวบ้านเองก็ใจหายเมื่อรู้ว่าพวกเราจะกลับแล้ว เหล่าพ่อเฒ่าแม่เฒ่าเกือบทั้งหมู่บ้านต่างก็มาอวยพร ผูกข้อมือให้ศีลให้พรพวกเรา
ชาวบ้านผูกข้อมือ ให้ศืลให้พร |
แค้มป์ไฟอำลา |
แค้มป์ไฟในคืนสุดท้าย จึงเป็นความประทับใจที่แฝงความวังเวงอยู่ไม่น้อย แต่อย่างไรก็ตามคืนนั้นทั้งคืนก็มิได้มีสิ่งใดเกิดขึ้นจนถึงรุ่งสาง พวกเราจึงหายใจได้สดวกขึ้นเพราะความโล่งใจ ช่วงสายวันนั้นรถทหารก็มารับพวกเรากลับออกไปจากค่าย และมีเจ้าหน้าที่ รพช.ท่านหนึ่งชื่อ พี่วิชัย วิบูลย์กิจธนากร ซึ่งคอยช่วยเหลือพวกเราตลอดที่อยู่ค่าย เห็นถึงความเหน็ดเหนื่อย จึงชักชวนให้พากันไปเล่นน้ำที่เกาะกลางแม่น้ำมูลหวังจะให้เกิดความสนุกไม่รู้ลืม ก่อนจะอำลากัน
น้ำก็ตื้น ๆ เล่นน้ำกันจนเหนื่อย เพราะต้องวิ่งในน้ำ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ในบางช่วงมีหลุมลึกใต้น้ำ เพราะบริเวณนี้มีการขุดทรายกัน ส่วนที่ถูกขุดเป็นหลุมลึกจึงก่อให้เกิดน้ำวนขึ้นบริเวณนั้น และคนที่โชคร้ายไปเล่นน้ำบริเวณนั้นก็คือ.......น้องตี๋..ธรรมศักดิ์ อัศวเพียรชอบ
เรามารู้ว่า น้องตี๋หายไปก็ตอนที่ขึ้นมารดน้ำคุณพ่อระพี สาคริก เมื่อนับจำนวนคนแล้วจึงรู้ว่าหายไป 1 คน ไม่มีใครคิดว่าว่าน้องตี๋จะจมน้ำ คิดไปว่าคงไปเดินเที่ยวเล่นตามประสาเด็กหนุ่ม จึงช่วยกันตะโกนจนดังก้องไปทั้งสองฝั่งน้ำ เป็นเวลานานแสนนาน ก็ไม่มีวี่แวว จนกระทั่งไปพบเสื้อผ้ากองอยู่ริมฝั่งจึงมั่นใจว่าคงอยู่ในน้ำแน่แล้ว พี่ ๆ เพื่อน ๆ ผู้ชายเริ่มพากันโดดน้ำลงไปงมหา รวมทั้งแป๋ว สมถวิล พาณิชยิ่ง ซึ่งเป็นนักว่ายน้ำก็ลงไปช่วยอีกแรงหนึ่ง งมแล้วงมเล่า หลายต่อหลายครั้ง ก็ไม่พบสิ่งใด ชาวบ้านที่มามุงดูเริ่มให้ความเห็นที่สร้างความกังวลไม่น้อยที่ว่า บริเวณนี้มีคนตายบ่อยเพราะน้ำวน !
ความเห็นของชาวบ้าน ทำให้ต้องแอบคิดว่า " หรือตี๋จะเป็นคนต่อไป" และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เมื่อมีใครก็ไม่รู้ตะโกนขึ้นมาว่า "พบแล้ว".......พร้อมทั้งประคองร่างที่ซีดขาวไร้ความรู้สึกขึ้นมาบนฝั่ง
การปฐมพยาบาลในเบื้องต้นไม่ได้ผล ในที่สุดก็ต้องนำส่งโรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์เพื่อหวังว่าจะสามารถช่วยชีวิตให้รอดได้
ตะวันลับฟ้าไปแล้ว พระจันทร์ทอแสงสีเดียวกับเมื่อวันวาน พวกเรานั่งเกาะกลุ่มกันอยู่บนพิ้นถนนในโรงพยาบาลเพื่อรอฟังข่าวอย่างมีความหวัง ใต้เงาแสงจันทร์สีเลือดนั้น ทุกคนเงียบกริบจนสามารถได้ยินแม้เพียงเสียงลมหายใจ....นานจนกระทั่งรุ่นพี่มาบอกว่า "ไม่รอดแล้ว" เท่านั้นแหละก็ร้องไห้กันระงม
อนิจจา น้องตี๋.....เธอช่างโชคร้ายเหลือเกิน !
เพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกคน เสียใจที่ไม่อาจช่วยเหลือเธอได้ เสียใจที่ไม่อาจดึงชีวิตเธอกลับมาได้
ขอภาวนาให้เธอได้ไปอยู่ในที่ ๆ ดีงาม เพราะสิ่งที่เธอได้ทำก่อนสิ้นลม ก็คือการสร้างคุณประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ต่อสังคม........โรงเรียนบ้านนาสามัคคี (เกษตรศาสตร์อนุสรณ์) ที่เธอได้มีส่วนร่วมสร้างไว้...
และที่สำคัญ...น้องตี๋ ..จะอยู่ในความทรงจำของพี่ ๆ ชาวค่ายทุกคน..ตลอดไป
แม้จะเป็นความทรงจำที่แสนเศร้า............ในการออกค่ายอาสาที่อุบลราชธานี..........
อาลัย..ธรรมศักดิ์ อัศวเพียรชอบ |
หนูเป็นเด็กค่ายรุ่น 69 ค่ะ ถ้าหนูอยากได้บางส่วนของบทความนี้ไปตีพิมพ์ในหนังสือประเมินผล จะได้ไหมค่ะ
ตอบลบ