บทความที่ได้รับความนิยม

วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2555

คุณพี่ ช่า..ช่า..ช่า




ฝ่ายประนอมหนี้ ถือเป็นหน่วยงานที่เก่าแก่หน่วยงานหนึ่งของธนาคาร  พนักงานในหน่วยงานจึงมีด้วยกันหลายรุ่น  พนักงานรุ่นแรก ๆ ที่สร้างทีเด็ดให้ฉันได้จดจำ เห็นทีจะไม่พ้นพี่สุเทพ  เพื่อนร่วมงานรุ่นดึกดำบรรพ์ ที่มีจุดเด่นในตัวเองอยู่หลายประการ

ประการแรกก็คือเรื่องความหล่อ ......พี่สุเทพเป็นคนที่เรียกว่าหล่อลากดินทีเดียว  หน้าเรียว  ตาโตและหวานซึ้ง   พนักงานประนอมหนี้รุ่นดึกดำบรรพ์ไม่มีใครหล่อเกินแก

ประการที่สองคือเรื่องการเดิน.......พี่สุเทพ จะมีลีลาในการเดินไม่เหมือนคนอื่น  นั่นคือแกจะเดิน 3 ก้าว กระโดด 1 ครั้ง ถ้าเปรียบเทียบกับท่วงทำนองจังหวะลีลาศ  ก็น่าจะคล้ายกับ ช่า..ช่า..ช่า.. คือ ก้าว.. ก้าว.. ก้าวชิดก้าว   จึงเป็นสัญญลักษณ์เฉพาะตัวที่ใครเห็นท่าเดิน ไม่ต้องมองหน้า ก็รู้ได้ว่าเป็นที่สุเทพ  มีอยู่วันหนึ่ง ฉันขับรถไปหาพี่ชายที่อยู่บางกรวย  บังเอิญรถติดยาว ทำให้มีโอกาสได้มองโน่นนั่นนี่  เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่ง เดิน ๆ ๆ กระโดด อยู่ริมฟุตบาทฝั่งตรงข้าม  ในใจคิดว่าในโลกใบนี้  ยังมีคนที่เดินเหมือนพี่สุเทพอีกหรือ  ครั้นเพ่งมองไปอีกครั้ง  ไฮ้.!  พี่สุเทพนั่นเอง  โอ้  ..พระเจ้า  พี่สุเทพไม่เคยเดินจังหวะอื่นเลยหรือนี่...นี่ขนาดแกเกษียณไปเกินกว่า 10 ปีแล้วนะ....

ประการที่สามคือเรื่องการคิดดี.........พี่สุเทพเป็นคนที่ดีมาก ๆ คนหนึ่ง  แกไม่เคยคิดร้ายกับใครเลย  ไม่เคยโกรธใครเลย วันใดที่แกเสนอขออนุมัติฟ้องล้มละลายลูกหนี้  วันรุ่งขึ้นแกยังต้องทำบุญตักบาตรเพื่อขออโหสิกรรม  พี่สุเทพจะดีกับทุกๆ คนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย  แต่โลกใบนี้ มักจะมีช่องว่างในทุกเรื่องอยู่เสมอ  ในความดีของพี่สุเทพที่ไม่เคยคิดร้ายต่อใคร  จึงกลายเป็นจุดอ่อน  ที่ทำให้พี่สุเทพมักจะถูกน้อง ๆ  แกล้งอยู่เสมอ

พี่สุเทพเป็นคนที่ชอบกินกล้วยย่าง อย่างเป็นชีวิตจิตใจ มีอยู่วันหนึ่งพี่สุเทพ ถือถุงใส่กล้วยย่างลูกกลม ๆ  มา 3 ลูก โดยปกติแกจะกินกล้วยย่างจนหมดแล้วจึงไปเข้าห้องน้ำ  แต่วันนั้น สงสัยแกจะปวดมาก จึงวางถุงกล้วยย่างไว้บนโต๊ะ แล้วไปเข้าห้องน้ำก่อน  น้องผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งชอบกินกล้วยเหมือนกันแต่เป็นกล้วยทับแบน ๆ  แกล้งนำถุงกล้วยทับแบน  ไปวางสลับกับถุงกล้วยย่างกลมของพี่สุเทพ  และนำถุงกล้วยกลมมาแอบไว้   เมื่อพี่สุเทพเดินกลับนั่งโต๊ะ  และเปิดถุงกล้วย หวังจะกินให้อิ่มใจ  แต่ทุกคนแทบจะหัวเราะก๊าก  เมื่อเห็นพี่สุเทพ  มองกล้วยทับด้วยแววตาฉงน และขมวดคิ้วด้วยความสงสัยอยู่พักใหญ่แต่ก็กินกล้วยทับไปเหมือนไม่มีอะไรแตกต่าง

นอกจากนี้ ยังมีอีก... มีอยู่วันหนึ่ง พี่สุเทพ ลุกจากเก้าอี้ไปเข้าห้องน้ำอีกนั่นแหละ  น้องคนหนึ่งได้นำขี้ปลอมที่เป็นพลาสติก  ไปวางไว้บนเก้าอี้ที่พี่สุเทพนั่ง   พอแกกลับมาเห็นเข้า  ทุกคนเห็นแววตาที่แสยะแบบสะอิดสะเอียน  แล้วแกก็ดึงกระดาษทิชชู ไปวางทับก้อนขี้ปลอมก้อนนั้น  ค่อย ๆ หยิบทิ้งถังขยะ  แล้วแอบเอามือมาดม เมื่อเห็นว่าไม่เหม็นก็ทำงานต่อไปโดยไม่ได้โวยวายว่าใครเลยแม้แต่น้อย .........

นี่คือความดีของพี่สุเทพ  ซึ่งหาได้ยากนัก ไม่ว่าจะเป็นสังคมยุคไหน  เป็นความดีที่ทำให้คนต้องระลึกถึง !
ความดีของพี่สุเทพ ที่ไม่เคยกล่าวร้ายใคร จึงเป็นที่จดจำอยู่ในใจของน้อง ๆ  ทุกคน และไม่มีใครลืมพี่สุเทพได้เลย.....

2 ความคิดเห็น:

  1. พี่แอนแหงๆอ่ะค่ะ ที่เอาขี้พลาสติกไปวาง ใช่มั๊ยคะพี่? 555

    ตอบลบ