ภาพแสงเหนือที่เกิดหลังมีพายุสุริยะ (ภาพจากไทยรัฐ) |
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะผลกระทบจะเกิดขึ้นกับทุกคนบนโลกใบนี้ ทำให้ข้าพเจ้าต้องย้อนกลับไปหาหนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันที่ 15มค.55 ที่ได้นำบทสัมภาษณ์ของ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น คนไทยที่ทำงานอยู่ในองค์การนาซ่า มาอ่านดูอีกครั้ง
ดร.ก้องภพ อยู่เย็น เป็นวิศวกรด้านเทคโนโลยีไมโครเวฟ ขององค์การนาซ่า เป็นเจ้าของรางวัลวิศวกรดีเด่นของนาซ่าประจำปี 2553-2554 บอกว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่หลายคนมองว่าเป็นภัยพิบัติ เป็นเรื่องที่สามารถคาดการณ์ได้ โดยใช้ข้อมูลจากการเก็บสถิติของปฏิกิริยาดวงอาทิตย์ นักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงด้านขอบนอกของระบบสุริยะจักรวาลว่ามีปริมาณสูงขึ้น ขอบระบบสุริยะจักรวาลมีความสว่างมากกว่าปกติ มีข้อสรุปของนักวิทยาศาสตร์ว่า ระบบสุริยะกำลังโคจรเข้าหากลุ่มพลังงานขนาดใหญ่ที่มีความหนาแน่นสูง ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของดาวเคราะห์ทุกดวงในระบบสุริยะจักรวาล และพบว่ารังสีคอสมิค จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้เกิดไอน้ำในอากาศเร็วขึ้นและง่ายขึ้น ซึ่งต้นเหตุทั้งหมดคือ "พายุสุริยะ"
ดร.ก้องภพ กล่าวว่า ปัจจุบันพายุสุริยะมีความรุนแรงมากขึ้น เป็นการปล่อยพลังของดวงอาทิตย์ออกมาในรูปของพายุสุริยะที่เกิดขึ้นนอกโลก มีมวลและความเร็วสูง ทั้งยังมีประจุไฟฟ้าในพายุ เมื่อพลังงานเหล่านี้เคลื่อนที่มายังโลก โลกจึงเหมือนถูกไฟฟ้าช๊อตชั่วคราว เกิดความแปรปรวนของสนามแม่เหล็กโลก ทำให้เกิดปฏิกิริยาเกี่ยวกับน้ำในอากาศ ดังนั้นช่วงที่พายุสุริยะเข้ามากระทบโลก จึงเกิดน้ำท่วมตามมา เช่นเมื่อปลายปี 2554 น้ำท่วมเป็นประวัติการณ์ ก็เกิดขึ้นหลังจากการระเบิดของดวงอาทิตย์เมื่อ 22 กย.54 กระทั่งพลังงานจากดวงอาทิตย์เข้ามากระทบโลกอีก 4 วันถัดมา ส่งผลให้สนามแม่เหล็กโลกที่มีลักษณะเหมือนเปลือกหุ้มผลส้มเกิดรูโหว่
ดร.ก้องภพกล่าวอีกว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดวงอาทิตย์มีปฏิกิริยารุนแรงมากที่สุด ในปีนี้ดวงอาทิตย์กำลังเข้าสู่วัฏจักรที่มีความรุนแรงมากขึ้น มันเริ่มตั้งแต่ปี 2552 โลกเราผ่านไป 3 ปีแล้ว จุดสูงสุดจะอยู่ระหว่างปี 2012 - 2015 ปฏิกิริยาดวงอาทิตย์รุนแรง ปล่อยพายุสุริยะออกมามาก น้ำจะท่วมเยอะ ทั้งยังเกิดภัยธรรมชาติอื่น ๆ ด้วย เช่นเรื่องของสภาพอากาศแปรปรวนฉับพลัน ระบบไฟฟ้าและดาวเทียมสื่อสารขัดข้อง จากผลการศึกษาพบว่า ความถี่ของการเกิดพายุสุริยะ สัมพันธ์กับการเกิดแผ่นดินไหว หรือ ภูเขาไฟระเบิดด้วย หรือการเกิดพายุลูกใหญ่ ๆ มักก่อตัวช่วงที่พายุสุริยะเคลื่อนตัวมายังโลก
ข้าพเจ้าได้นำข่าวและบทสัมภาษณ์ของหนังสือพิมพ์ดังกล่าว มาเล่าต่อกันฟัง เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายไม่อาจจะหลีกเลี่ยงภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นนับจากนี้ได้ จำเป็นต้องเตรียมตัว เตรียมใจ ยอมรับ และจะต้องเตรียมพร้อมที่จะเผฃิญกับมันอย่างมีสติ ยังมีอีกหลายคนที่วิตกกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หันไปพึ่งหมอดู หรือคำทำนายทายทักจากสำนักต่าง ๆ ว่าโลกจะถึงกาลดับสิ้นใน ธค.55 แต่ไม่ว่าการทำนายทายทักจะเป็นอย่างไร อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด เพราะมันเกิดขึ้นตามเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงบนดวงอาทิตย์ได้ เท่าๆกับ ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงของชะตาชีวิตของแต่ละคนที่ถูกกำหนดมาแล้วได้ เพราะทุกชีวิตถูกกำหนดมาด้วยกรรม คือกรรมดี กรรมชั่วที่แต่ละคนได้กระทำไว้
ฉะนั้นการเตรียมตัวอย่างมีสติ นอกเหนือจากการจัดระบบทรัพย์สินของตนเองให้อยู่ในที่ซึ่งมีความปลอดภัยแล้ว นั่นคือสร้างกรรมดีอย่างต่อเนื่อง และใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข บนความพอเพียงและความไม่ประมาท
ขอให้ทุกท่านโชคดีนะคะ....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น