บทความที่ได้รับความนิยม

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กระจกส่องประเทศไทย




โคฟี อันนัน


          การเดินทางมาประเทศไทยของนายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 18 ก.พ.55 ตามคำเชิญของ คอป.แม้จะด้วยเจตนาดี ที่จะมาช่วยเสริมสร้างการปรองดองในชาติให้แก่ประเทศไทย แต่หากจะมองในอีกมุมหนึ่งมันสะท้อนใจยิ่งนักเมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า  คนไทยด้วยกันไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้เองได้โดยลำพังเสียแล้ว ต้องอาศัยคนนอก

          และที่มันแย่ขึ้นไปอีก  เมื่อตอนหนึ่งของบทสัมภาษณ์นายโคฟี  อันนัน บอกว่า .........................

          "สถานการณ์แบบนี้ต้องอาศัยการแก้ไขที่มาจากข้างในประเทศ  ต้องอาศัยเวลาและดึงทุกภาคส่วนเข้ามาร่วม" 

          "คนไทย และผู้นำทางการเมืองไทยทุกคนควรจะนึกถึงผลประโยชน์ของชาติร่วมกันเป็นอันดับแรก"

          "บางเรื่องไม่ควรนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง หวังว่าทุกฝ่ายจะเห็นพ้องว่า พระเจ้าอยู่หัวท่านอยู่คู่คนไทยมาหลายรุ่น และจะทรงอยู่ต่อไป  คนไทยส่วนใหญ่ที่ผมได้พบ ต่างเคารพรักพระองค์  และเคารพบทบาทของพระองค์ในสังคมไทย ผมไม่คิดว่าเรื่องเหล่านี้ควรจะเป็นประเด็นด้วยซ้ำ มีเรื่องอื่น ๆ อีกเยอะที่เป็นปัญหาในสังคมไทย  เช่นการพัฒนาเศรษฐกิจ, ชาวนาที่ยังยากจน,  ท้องถิ่นที่ต้องได้รับการพัฒนา  เรื่องเหล่านี้ต่างหากที่อยู่ในใจผู้คน "

          สิ่งที่นายโคฟี พูดทั้งหมด  นอกจากจะตอกย้ำว่า คนไทยนั่นแหละที่ต้องแก้ปัญหากันเอง  และทุกคนต้องร่วมมือกันแล้ว  นายโคฟียังมองเห็นถึงบทบาทที่สำคัญอย่างยาวนานของในหลวงของเรา  ที่ยอมเหนื่อยยากพัฒนาประเทศ ช่วยเหลือคนไทยที่ยากจน   ในขณะที่คนไทยบางคนพยายามมองข้ามไป

          การเดินทางมาไทยของนายโคฟี อันนัน  จึงเป็นเสมือนเป็นกระจกบานใหญ่ ที่ส่องประเทศไทย  ให้เห็นว่าคนที่เป็นผู้นำทางการเมืองควรทำอย่างไร  และเรื่องใดที่ไม่ควรนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง  มีเรื่องมากมายที่ควรต้องทำก่อน ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างที่มีรายได้น้อย  ชาวนาที่ยากจน  คนที่ประสพภัยธรรมชาติ  ฯลฯ  คนเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนใหญ่ของคนในประเทศ ที่รอรับการช่วยเหลือแก้ไขปัญหา 

          คนที่เปิดใจกว้างเท่านั้น   ที่จะมองเห็นความสว่าง..................
          ขอบคุณ..โคฟี  อันนัน.......................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น